ตัวอย่าง
"มะม่วง/พวงพลอง/ช้องนาง
หล่นเกลื่อน/เถื่อนทาง
กินพลาง/เดินพลาง/หว่างเนิน
เห็นกวาง/ย่างเยื้อง/ชำเลืองเดิน
เหมือนอย่าง/นางเชิญ
พระแสง/สำอาง/ข้างเคียง
เขาสูง/ฝูงหงส์/ลงเรียง
เริงร้อง/ซ้องเสียง
สำเนียง/น่าฟัง/วังเวง
กลางไพร/ไก่ขัน/บรรเลง
ฟังเสียง/เพียงเพลง
ซอเจ้ง/จำเรียง/เวียงวัง"
คณะ
กาพย์ฉบัง ๑๖ หนึ่งบทมี ๓ วรรค
พยางค์
พยางค์หรือคำ วรรคที่ ๑ มี ๖ คำ วรรคที่ ๒ มี ๔ คำ วรรคที่ ๓ มี ๖ คำ รวมทั้งหมดมี ๑๖ คำ จึงเรียกว่า กาพย์ฉบัง ๑๖
สัมผัส
๑. คำสุดท้ายของวรรคที่ ๑ สัมผัสกับคำสุดท้ายของวรรค ๒
๒. คำสุดท้ายของวรรคที่ ๓ สัมผัสกับคำสุดท้ายของวรรคที่ ๑ ของบทต่อไป ( เรียกว่า สัมผัสระหว่างบท )
การอ่านกาพย์ฉบัง ๑๖
การอ่านกาพย์ฉบัง ๑๖ จะต้องแบ่งจังหวะการอ่านคำในแต่ละวรรคดังนี้
หนึ่งบทมี ๓ วรรควรรคแรกมี ๖ คำ วรรคที่ ๒ มี ๔ คำ วรรคที่ ๓ มี ๖ คำ การอ่านจึงเว้นจังหวะทุกๆ ๒ คำ
00 / 00 / 00
00 / 00
00 / 00 / 00
กลางไพร / ไก่ขัน / บรรเลง
ฟังเสียง / เพียงเพลง
ซอเจ้ง / จำเรียง / เวียงวัง